มาเช็กสุขภาพจิตตัวเองสักนิด ตอนนี้คุณมีภาวะเครียดอยู่หรือไม่?
เพราะความอ่อนล้าจากการทำงานในแต่ละวัน อาจทำให้สุขภาพจิตของคุณทดถอยไปทีละนิด ซึ่งบางครั้งคุณก็ไม่อาจรู้ตัวเองเลยว่า กำลังตกอยู่ในภาวะเครียดอยู่ เพราะถึงแม้คุณจะมีวิธีการปลดปล่อยความเครียดเหล่านั้นไปให้กับการใช้ชีวิต แต่เมื่อคุณกลับไปทำงานและต้องเจอกับวงจรแบบเดิมๆ ความเครียดเหล่านั้นก็จะกลับมาหาคุณ จนสุดท้ายความเครียดที่ถูกอัดเก็บเอาไว้ อาจรอเวลาปะทุ จนสุดท้ายคุณอาจตั้งรับแทบไม่ทันเลยก็เป็นได้
เราลองมาสำรวจตัวเองกันสักหน่อย ว่าตอนนี้คุณยังมีความสุขกับการทำงานอยู่หรือไม่ เพราะถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม คุณรู้สึกว่าความสุขจากการทำงานได้หายไป คุณอาจจะต้องปรับวิถีการใช้ชีวิต รวมถึงการทำงานให้เกิดความสมดุลกับตัวเองมากที่สุด
- หงุดหงิดทุกครั้ง ที่เพื่อนร่วมงามทำงานไม่ได้ดั่งใจ
ลองสังเกตตัวเองว่า ในวันแรกที่คุณเข้ามาทำงาน ครั้งสุดท้ายที่คุณรู้สึกหงุดหงิดและอยากกรี๊ดใส่เพื่อนร่วมงานมันเมื่อไหร่กันนะ? ถ้าคำตอบที่ได้คือไม่มีเลยสักครั้ง แต่ ณ ปัจจุบัน ทำไมคุณถึงรู้สึกแบบนั้น? เพื่อนร่วมงานของคุณทำงานไม่ได้ดั่งใจจริงหรือ? หรือเป็นเพราะว่าคุณเอาความเครียดเรื่องอื่นๆ แล้วโยนความผิดไปให้เพื่อนกันแน่? สำหรับในเรื่องนี้ ถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณทำงานแย่ๆ จริงๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ถ้าคุณสำรวจตัวเองแล้ว กลับไม่ใช่แบบนั้น คุณอาจกำลังต้องการใครสักคนเพื่อฟาดความเครียดที่คุณมีให้ออกไป แต่รู้หรือไม่ว่า วิธีนี้ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะถ้าเพื่อนร่วมงานของคุณทำงานไม่ดีจริงๆ การเลือกวิธีพูดคุยและปรับจูนความต้องการของกันและกันอาจเป็นวิธีที่เหมาะสมมากที่สุด
หากคุณกำลังมองหาคนที่จะมาช่วยแบ่งเบาความเครียดด้วยการใช้อารมณ์ ยิ่งจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่าเดิม ขอแนะนำว่า คุณควรจัดการกับอารมณ์โกรธ หรืออาการหงุดหงิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ลดลงเสียก่อน แล้วคุณจะเห็นภาพตัวเองได้มากยิ่งขึ้น และรู้ว่าแท้จริงแล้ว อะไรคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เราเกิดความเครียด สำหรับสิ่งที่คุณควรทำในลำดับต่อไปก็คือ คุณควรหาเวลาพักสักหนึ่งหรือสองชั่วโมง จะนอนหลับ หรือออกไปหาสิ่งที่ตัวเองชอบทำ เพื่อปรับโหมดให้รู้สึกผ่อนคลายก่อนจะกลับมาทำงาน ก็จะสามารถช่วยอาการเครียดจากการทำงานลดลงได้
- มาตรฐานการทำงาน ไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่เคย
หากคุณรู้ตัวเองว่า กำลังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับอารมณ์ของตัวเอง เพราะส่งผลจากงานที่ทำ เพราะงานที่ออกมาไม่ได้มาตรฐานอย่างที่คุณตั้งใจเอาไว้ นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณกดดันตัวเองมากไปหรือเปล่า? หรือคาดหวังกับงานทุกชิ้นมากจนเกินไป? ความต้องการที่อยากให้งานของบริษัทออกมาดีไม่ใช่เรื่องผิดเลยสักนิด แต่วิธีการที่คุณบังคับตัวเองว่าต้องทำงานให้ได้อย่างที่หวัง จนสร้างมาตรฐานที่บางครั้งก็ยากที่จะเอื้อมถึง ทำให้ในทางกลับกัน ส่งผลเลวร้ายกับงานเข้าไปใหญ่
ไม่ผิดเลยถ้าคุณจะมองว่า ในการทำงานในแต่ละครั้งจะมีข้อผิดพลาดได้ เพราะเมื่อคุณรู้ว่าคุณมีความตั้งใจในการทำงาน 100% ก็ให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นและกลายเป็นครูสอนให้คุณรู้ว่า อะไรควรระวังหรือไม่ควรทำก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะการเอาตัวเองไปเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง นอกจากจะทำร้ายตัวเองแล้ว ยังบั่นทอนคนรอบข้าง รวมถึงงานที่คุณทำอยู่ด้วยเช่นกัน